TH
TH EN
x

พ่อค้าแม่ค้าต้องรู้ ร่วมโครงการคนละครึ่ง ต้องเสียภาษีไหม

พ่อค้าแม่ค้ามีเฮ โครงการคนละครึ่ง กลับมาแล้วกับเฟส 5 ที่เริ่มเปิดให้ใช้จ่ายกันตั้งแต่เดือนที่แล้วจนถึงสิ้นเดือนนี้ ตลาดและร้านค้าคงเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง พ่อค้าแม่ขายคนไหนที่ยังไม่รู้ว่า ตนเองจะต้องเสียภาษีหรือไม่ มาฟังทางนี้ 

โพสต์นี้ เคดับบลิวไอ ประกันชีวิต จะขอพาพ่อค้าแม่ขายทุกท่าน มาดูกันว่ามีรายได้เท่าไหร่ถึงจะต้องเสียภาษีและทำความเข้าใจในเรื่องของภาษีเบื้องต้น รวมถึงมาดูวิธีการยื่นเสียภาษีแบบถูกต้องเพื่อไม่ให้โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังแบบจุกๆ กัน ถ้าพร้อมกันแล้วมาดูกันเลย

ที่มาของข้อมูล : bangkokbiznews.com

รายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษี ?

สำหรับพ่อค้าแม่ค้า ที่ค้าขายและมีรายได้ในนามบุคคลธรรมดา (ไม่ต้องจดเป็นนิติบุคคล) จะต้องมีภาระภาษีส่วนที่เป็น "รายได้จากการขาย คือ ยอดขายปกติ" และ "ยอดขายคนละครึ่ง ซึ่งหมายถึง ยอดขายทั้งส่วนที่ได้รับจากลูกค้าและส่วนที่ได้รับจากรัฐ" รายได้ที่กล่าวไปทั้งหมดถือว่าเป็น 

"เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (8)" แห่งประมวลรัษฎากรที่จะต้องนำมารวมเพื่อคำนวณภาษี

โดยคนที่ต้อง "ยื่นภาษี" คือคนโสด มีรายได้เกิน 60,000 บาทต่อปี และคนมีคู่สมรส (ตามกฎหมาย) ไม่ว่าจะมีรายได้ฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่ายรวมกันเกิน 120,000 บาท

โดยสามารถหักค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง (ต้องมีเอกสารหลักฐานค่าใช้จ่าย) หรือหักเป็นการเหมาในอัตรา 60% และหักค่าลดหย่อนได้ตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อหักค่าใช้จ่าย และค่าลดหย่อนเรียบร้อยแล้วสามารถประเมินได้ว่า "ต้องเสียภาษี" เท่าไร จาก "เงินได้สุทธิ" ตามตารางต่อไปนี้

ร้านค้าคนละครึ่ง ต้องยื่นภาษีอย่างไร ?

หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กล่าวไปข้างต้น ร้านค้าจะต้องนำรายได้เหล่านั้นมา "ยื่นภาษี" โดยจะต้องยื่นภาษี 2 ครั้ง ตามระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้

- ครั้งแรก คือ การยื่นภาษีครึ่งปีหรือกลางปี ที่เรียกว่า ภ.ง.ด. 94 โดยจะต้องยื่นภายในเดือนกันยายน

- ครั้งที่ 2 คือ การยื่นภาษีช่วงปลายปี ที่เรียกว่า ภ.ง.ด.90 ที่จะต้องยื่นภายในเดือนมีนาคมปีถัดไป

นอกจากนี้ กรณีที่พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายดีมีรายรับเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องยื่น "ภาษีมูลค่าเพิ่ม" หรือ "VAT" ด้วย โดยจัดทำรายงานภาษีขาย รายงานภาษีซื้อ เพื่อยื่นแบบที่เรียกว่า ภ.พ.30 นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มทุกเดือน และชำระเงินภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปด้วย

หากร้านค้าไม่ยื่นจ่ายภาษีจะเกิดอะไรขึ้น ?

การไม่ชำระภาษีหรือเจตนาไม่ยื่นจ่ายภาษี ถือเป็นความผิดทางกฎหมาย ที่สำคัญผู้ที่มีรายได้และไม่เคยยื่นภาษีเลยนั้น อาจโดนตรวจสอบภาษีย้อนหลังได้ถึง 10 ปี ซึ่งนับเป็นเงินที่สูงมากเมื่อต้องโดนเรียกเก็บรวบยอดว รวมถึงอาจต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนมาก และร้ายแรงถึงขั้นติดคุกโดยค่าปรับและโทษที่ได้รับ มีอยู่กัน 4 กรณี ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาและเจตนาดังต่อไปนี้

เพิ่มผลตอบแทนจากการออมเงิน ด้วย "ออมคุ้มคุ้ม Plus 10/5"

เงินได้สุทธิที่มากย่อมตามมาด้วยอัตราภาษีที่ต้องจ่ายมากตามไปด้วย หากคุณกำลังมองหาทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับการจากออมเงิน พร้อมผลตอบแทนคืนในทุกๆ ปี ให้ ออมคุ้มคุ้ม Plus 10/5 ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์จาก KWI Life เป็นผู้ช่วยในการจัดการออมเงินของคุณ ด้วยการจัดระเบียบการเงิน โดยให้คุณออม เงินอย่างมีวินัยพร้อมผลตอบแทนที่สูงถึง 555% ของทุนประกัน ด้วยความคุ้มครองและการเก็บออมระยะสั้นแค่ 5 ปี แต่คุ้มครองยาวถึง 10 ปีการันตีด้วยผลตอบแทนคืนทุกปี

สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ออมคุ้มคุ้ม Plus 10/5 ได้ที่ : https://www.kwilife.com/endowment

**โปรดศึกษาเงื่อนไขและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ 

KWI Life ใช้คุกกี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี หากคุณยังคงใช้งานบนเว็บไซต์ เราถือว่าคุณยอมรับ ข้อกำหนดและเงื่อนไข ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่